เราคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่อง Safe Sex เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่พอหนุ่ม ๆ ใช้ถุงยางอนามัยกลับพบปัญหาที่ว่าใส่ถุงยางอนามัยแล้วน้องชายหดหรือไม่ค่อยแข็งตัว ส่งผลให้กิจกรรมบนเตียงเป็นไปอย่างไม่ราบรื่นหรืออาจถึงขั้นล้มเลิกกลางคัน ทำให้เกิดความสงสัยว่าอาการนี้เกิดจากอะไรและจะแก้ไขได้อย่างไรบ้าง วันนี้เรามีคำแนะนำดี ๆ พร้อมกับไขข้อสงสัยเรื่องนี้มาฝากกันค่ะ
.
ใส่ถุงยางอนามัยแล้วน้องชายหดถือว่าแปลกหรือไม่
ถ้าคุณผู้ชายใส่ถุงยางอนามัยแล้วน้องชายหดหรือกลับมาแข็งยาก หรืออาจจะไม่แข็งต่อจนปฏิบัติกามกิจไม่ได้ อย่าเพิ่งคิดวิตกกังวลว่าตนเองมีอาการผิดปกติหรือไม่ เพราะอาการนี้ไม่ใช่ความผิดปกติแต่อย่างใดและไม่ใช่อาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ถ้าก่อนใส่ถุงยางอนามัยสามารถแข็งตัวได้ตามปกติ อีกทั้งจากสถิติยังพบว่ามีผู้ชายถึง 37% ที่เคยพบปัญหานี้ด้วย
สาเหตุที่ใส่ถุงยางอนามัยแล้วน้องชายหด
ส่วนใหญ่สาเหตุหลัก ๆ ที่ใส่ถุงยางอนามัยแล้วน้องชายหด มักเกิดจากการใช้เวลาในการใส่ถุงยางอนามัยนานเกินไป หรืออีกกรณีหนึ่งคือหยุดเล้าโลมนานเกินไปจนทำให้อารมณ์ทางเพศสะดุดขาดตอน นอกจากนี้หากน้องชายเกิดหดตัวขณะกำลังสอดใส่ก็อาจเป็นเพราะการใส่ถุงยางอนามัยแล้วทำให้ความรู้สึกลดลง รวมถึงการเลือกขนาดของถุงยางอนามัยที่มีขนาดเล็กเกินไปยังมีผลด้วยเช่นกัน ทำให้ถุงยางอนามัยรัดอวัยวะเพศแน่นจนกระทั่งรู้สึกอึดอัดแล้วอารมณ์ทางเพศลดลงนั่นเอง
.
วิธีแก้ไขเมื่อใส่ถุงยางอนามัยแล้วน้องชายหด
เมื่อเราทราบสาเหตุแล้วว่าใส่ถุงยางอนามัยแล้วน้องชายหดเกิดจากอะไร ถ้าเป็นเพราะอารมณ์สะดุดจากการขาดเล้าโลมไม่ต่อเนื่อง ก็ให้อีกฝ่ายช่วยเล้าโลมตอนกำลังใส่ถุงยางอนามัย เพื่อให้อารมณ์ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง หรืออาจจะให้อีกฝ่ายช่วยใส่ถุงยางอนามัยให้ด้วยก็ได้ เดี๋ยวนี้มีเทคนิคแนะนำลีลาการใส่ถุงยางอนามัยที่หาได้ตามสื่อออนไลน์ต่าง ๆ
ทั้งนี้ถุงยางอนามัยควรมีขนาดเหมาะสมกับน้องชาย ต้องไม่เล็กเกินไปจนกลายเป็นบีบรัดน้องชายแน่น หากน้องชายมีปัญหาหดตัวขณะสอดใส่ ก็ให้ใช้เจลหล่อลื่นหยดลงในถุงยางอนามัยก่อนสวมใส่ เป็นอีกเคล็ดลับแก้ไขปัญหาใส่ถุงยางอนามัยแล้วน้องชายหดที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้สาเหตุหลักอีกส่วนหนึ่งที่เราอาจมองข้ามไปจนกลายเป็นต่อเนื่อง นั่นคือความวิตกกังวลในเรื่องการมีเซ็กส์ ซึ่งผู้ชายหลายคนที่เคยประสบปัญหานี้แล้วกังวลว่าใส่ถุงยางอนามัยแล้วน้องชายหดอีกหรือไม่ ยิ่งวิตกกังวลก็ยิ่งทำให้อาการที่ว่านี้แย่ลงกว่าเดิมไปอีก ดังนั้นถ้าแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองตามวิธีที่กล่าวมาแล้วไม่ได้ผล อาจจะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาทางออกด้วยวิธีอื่นต่อไป