10 แข้งค่าตัวสุดคุ้มในตลาดนักเตะฤดูกาล 2017- 18

10 แข้งค่าตัวสุดคุ้มในตลาดนักเตะฤดูกาล 2017-18

sbobet alves

          จากการที่กลุ่มธุรกิจต่างๆทยอยรุกคืบเข้ามามีส่วนพัวพันอยู่ในวงการลูกหนัง บวกกับอัตราเงินเฟ้อที่ทยอยไต่ระดับขึ้นมาในแต่ละปี ทำให้ภายในซีซั่นนี้เราได้เห็นนักเตะระดับซุปตาร์อย่าง เนย์มาร์ มีค่าตัวเฉียด 200 ล้านปอนด์ในการย้ายทีม รวมถึงผู้เล่นที่พอจะมีชื่อเสียงหลายคนก็มีราคาถีบตัวขึ้นสูงจากการซื้อ- ขายในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังมีดีลของนักเตะบางคนที่สวนกระแสของตลาดอันบ้าคลั่งในปัจจุบัน จนทำให้ต้นสังกัดใหม่ของพวกเขารู้สึกว่าถูกเหมือนได้เปล่า (บางคนก็ได้มาเปล่าๆจริงๆ)

 

10. เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ (จาก ยูเวนตุส ไป เอซี มิลาน 35.2 ล้านปอนด์) “ทีแรกผมคิดว่ามันเป็นเรื่องล้อเล่นขำๆด้วยซ้ำ” มัสซิมิเลียโน่ มิราเบลลี่ ผอ.กีฬาของ ปีศาจแดงดำ กล่าวถึงตอนที่ได้ยินเรื่องราคาเป็นครั้งแรกมาจากเอเย่นต์และถึงขั้นที่เขาไม่ได้เอา ไปพูดคุยต่อให้ มาร์โก ฟาสโซเน่ ซีอีโอของทีมฟังด้วยซ้ำ แต่หลังจากได้รับคำยืนยันอีกครั้งจากเรื่องที่เจ้าตัวไม่ลงรอยกับกุนซือของทีมและ ต้องการจะย้ายออก จึงทำให้พวกเขารีบตะครุบตัว ปราการหลังทีมชาติอิตาลี ที่ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็คที่ดีที่สุดของโลกในเวลานี้ทันที

 

9. ยูริ ตีเลม็องส์ (จาก อันเดอร์เลชท์ ไป โมนาโก 21.6 ล้านปอนด์) หากพิจารณาถึงบทบาทการเป็นขุนพลตัวหลักให้กับยอดทีมจาก เบลเยี่ยม มาเป็นเวลานาน 4 ปี ก็เป็นเรื่องที่ชวนให้น่าตกใจไม่น้อยที่เขาพึ่งจะมีอายุครบ 20 ปีเต็มไปเมื่อไม่นานมานี้ และดูเหมือนว่าบรรดาทีมจาก พรีเมียร์ลีก จะไม่มีรายใดที่พยายามโฟกัสได้เท่ากับแชมป์เก่าจาก ลีกเอิง จนสามารถคว้าตัว แข้งเทพ FM ไปครอง และจากผลงาน 18 ประตูบวกกับ 15 แอสซิสต์รวมกันทุกถ้วยในซีซั่นที่ผ่านมา ก็น่าจะเป็นการช่วยเสริมมิติแดนกลางในซีซั่นนี้ให้กับพวกเขาได้เป็นอย่างดี

 

8. ดานี่ เซบายอส (จาก เรอัล เบติส ไป เรอัล มาดริด 14.5 ล้านปอนด์) จากฟอร์มอันโดดเด่นจนติดอยู่ในทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ยูโร U-21 มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวสเปน ก็ได้ย้ายมายังถิ่น เบอร์นาเบว ในราคาที่สูงกว่าค่าฉีกสัญญาของตนเองด้วยซ้ำแต่ก็ยังดูสวนทางกับราคาเงินเฟ้อ ในตลาดนักเตะปัจจุบันอยู่ไม่น้อย ด้วยการที่มีทั้ง โทนี่ โครส และ ลูก้า โมดริช อยู่ในทีม ก็ทำให้นักเตะที่แจ้งเกิดกับ เบติส เมื่อ 3 ปีที่แล้วพร้อมประสบการณ์ในสนามร่วม 100 นัดอาจต้องใช้เวลาซักระยะสำหรับโอกาสออกสตาร์ทในทีมของ ซีเนดีน ซีดาน

 

7. มาร์โก เบนาสซี่ (จาก โตริโน่ ไป ฟิออเรนติน่า 9 ล้านปอนด์) หลังผ่านช่วงมรสุมในตลาดนักเตะหน้าร้อนที่ผ่านมาจากการสูญเสียซุปตาร์ประจำ ทีมอย่าง เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่ และ 2 มิดฟิลด์ตัวหลัก บอร์ฆา บาเลโร่ และ มาเทียส เวซิโน่ ออกไป แต่ในที่สุด ม่วงมหากาฬ ก็ได้รับรางวัลปลอบใจจากดีลสุดคุ้มที่สามารถคว้าตัว กัปตันทีมชาติอิตาลีชุด U-21 มาครอง ด้วยทักษะรอบด้านที่สามารถรับบทบาทตรงกลางสนามได้ทั้งรุกและรับ รวมถึงจุดเด่นจากการเปิดบอลและลูกยิงจากแถวสอง ที่น่าจะช่วยอุดช่องโหว่ในแดนกลางของทีมได้เป็นอย่างดี

 

6. เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ (จาก เชลซี ไป โอลิมปิก ลียง 8.8 ล้านปอนด์) นี่เป็นอีกหนึ่งสตาร์ดาวรุ่งที่ เดอะ บลูส์ ตัดสินใจเลหลังออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์ด้วยราคาเบาๆ หลังถูกมองข้ามและปล่อยให้ยืมไปในหลายฤดูกาลที่ผ่านมา ถึงแม้เขาจะพึ่งมีส่วนสำคัญในการพา อาแจ็กซ์ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศบอลยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปีก็ตาม แต่บางทีนี่อาจเป็นสไตล์ของทีมแชมป์เก่า พรีเมียร์ลีก ที่ชอบตามไปดึงตัวอดีตนักเตะของตนเองกลับมาในภายหลัง เนื่องจากพวกเขาไม่ลืมที่จะแนบเงื่อนไขซื้อตัวกลับเอาไว้ในดีลนี้ด้วย

 

5. แอนดี้ โรเบิร์ตสัน (จาก ฮัลล์ ซิตี้ ไป ลิเวอร์พูล 8 ล้านปอนด์) ถึงแม้จะไม่ใช่การเซ็นสัญญาที่กลายเป็นข่าวครึกโครมแต่มีโอกาสที่จะกลายเป็นห นึ่งในดีลที่ดีที่สุดในช่วงซัมเมอร์นี้ จากการที่ หงส์แดง พยายามตามหาแบ็คซ้ายของทีมมาโดยตลอด จนกระทั่งชื่อของ กองหลังเลือดวิสกี้ ผุดขึ้นมาท่ามกลางความประหลาดใจเล็กน้อยของ เดอะ ค็อป แต่แล้วเพียงการลงสนามอย่างเป็นทางการนัดแรกของเขากับ คริสตัล พาเลซ ก็ได้สร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่ได้เห็น พร้อมกับสร้างความเชื่อมั่นให้กับตำแหน่งที่มีปัญหาของทีมมาโดยตลอด

 

4. ซานโดร รามิเรซ (จาก มาลาก้า ไป เอฟเวอร์ตัน 5.3 ล้านปอนด์) ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน สามารถคว้าตัวอดีตเด็กปั้นของ บาร์เซโลน่า เจ้าของสถิติ 16 ประตูจากการลงสนาม 31 นัดมาในราคาที่ถูกแสนถูก และที่น่าเหลือเชื่อไปกว่านั้นก็คือนี่เป็นราคาค่าฉีกสัญญาของเขากับต้นสังกัดเก่า! ถึงแม้จะได้รับความสนใจจาก แอตเลติโก มาดริด และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด อยู่ด้วยก็ตาม แต่สุดท้ายก็เป็น โรนัลด์ คูมัน ที่สามารถเกลี้ยกล่อมให้ ดาวยิงวัย 22 ปี คล้อยตามไปกับแผนการสร้างทีมระยะยาวภายในถิ่น กูดิสัน พาร์ค

 

3. เซบาสเตียน รูดี้ (จาก ฮอฟเฟ่นไฮม์ ไป บาเยิร์น มิวนิค ฟรี) อาจดูเหมือนเป็นหนึ่งในการคว้าตัวนักเตะโลว์โปรไฟล์ของ ทีมเสือใต้ เฉกเช่นในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่หากพิจารณาดูแล้วพวกเขาน่าจะมีแต่คุ้มกับคุ้ม หลังค้าแข้งอยู่กับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ เป็นระยะเวลา 7 ปี กองกลางทีมชาติเยอรมัน ที่ยังสามารถลงเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาได้อีกด้วยก็ตกลงเซ็นสัญญา 3 ปีเพื่อมาอยู่ในถิ่น อลิอันซ์ อารีน่า พร้อมกับเปิดตัวอย่างสวยหรูด้วยการคว้าตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในรายการ ซูเปอร์ คัพ กับ ดอร์ทมุนด์ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

 

2. เซอัด โคลาซินัช (จาก ชาลเก้ 04 ไป อาร์เซน่อล ฟรี) มีอยู่หนึ่งโมเมนต์ในนัดเปิดฤดูกาลของ ทีมปืนใหญ่ ที่ต้องรับมือกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในขณะที่ ริยาด มาห์เรซ กำลังพาบอลลากเข้าหาประตูฝั่งเจ้าบ้าน ก็ถูกขัดขวางด้วย กองหลังชาวบอสเนีย ที่แม้แต่เขาจะใช้ทักษะและความพยายามเท่าไรก็ตาม แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถไปต่อได้พร้อมกับถูกเคลียร์บอลทิ้งออกไป จนกลายเป็นที่มาของฉายา ‘ไอ้รถถัง’ จากเพื่อนร่วมทีม และก็ทำให้น่าแปลกใจยิ่งขึ้นว่า ชาลเก้ ยอมปล่อยให้สัญญาของ ดาวเตะวัย 24 ปี หมดลงแบบดื้อๆได้อย่างไร

 

1. ดานี่ อัลเวส (จาก ยูเวนตุส ไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ฟรี) หลังตัดสินใจเดินจาก บาร์ซ่า เพื่อไปอยู่กับ ทีมม้าลาย ในวัย 33 ปี แบ็คจอมเก๋าชาวบราซิล ก็มีส่วนสำคัญในการพาทีมทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ UCL พร้อมผลงานสุดเจ๋งในรอบรองชนะเลิศจากการยิง 1 จ่าย 3 ในผลสกอร์รวม 4-1 กับ โมนาโก จนทำให้ PSG ยอมทุ่มค่าเหนื่อย 230,000 ปอนด์/สัปดาห์ ในการย้ายทีมแบบฟรีๆในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และสิ่งที่ทำให้ยอดทีมจาก ลีกเอิง รู้สึกคุ้มค่าที่สุดก็คือการที่เขาช่วยโน้มน้าวให้ เนย์มาร์ ตัดสินใจย้ายมาอยู่ด้วยกันที่ ปารีส