10 สตาร์หน้าใหม่ที่ควรจับตามองในพรีเมียร์ลีก 2017-18

10 สตาร์หน้าใหม่ที่ควรจับตามองในพรีเมียร์ลีก 2017-18

[siteorigin_widget class=”SiteOrigin_Widget_Image_Widget”][/siteorigin_widget]

  จากสตาร์ดังค่าตัวระดับติดเพดานไปจนถึงนักเตะชื่อเสียงเรียงนามไม่ค่อยคุ้นหูที่บ รรดาทีมน้อย-ใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก ต่างดึงตัวเข้ามาเสริมทัพกันในช่วงหน้าร้อนนี้ ทางเราได้คัดเลือกนักเตะนำเข้า 10 รายที่คาดว่าจะสามารถสร้างอิมแพ็คให้กับฤดูกาลใหม่ที่เริ่มต้นเปิดฉากกันเป็นที่เรี ยบร้อยแล้ว

 

  1. ไจโร รีเดอวัลด์ (คริสตัล พาเลซ) กองหลังวัย 20 ปี คือผู้เล่นคนที่ 2 ของ อาแจ็กซ์ ชุดรองแชมป์ ยูโรปา ลีก ที่ตัดสินใจตามหลัง ดาวี่ คลาสเซ่น และมุ่งหน้าเข้ามายังลีกแดนผู้ดีเพื่อทำงานร่วมกับ แฟรงค์ เดอ บัวร์ ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ เซ็นเตอร์แบ็คทีมชาติฮอลแลนด์ ลงสนามให้กับต้นสังกัดเดิมรวมกัน 92 เกมนับตั้งแต่ที่แจ้งเกิดขึ้นมาในฤดูกาล 2013-14 และยังสามารถทำหน้าที่ในตำแหน่งแบ็คซ้ายได้อีกด้วย ดังที่เห็นในเกมนัดชิงบอลยุโรปกับ แมนฯ ยูไนเต็ด

 

  1. ดาวี่ พร็อพเพอร์ (ไบรท์ตัน) อีกหนึ่งนักเตะที่ออกเดินทางมาจาก เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ และกลายมาเป็นขุมกำลังที่ค่าตัวแพงที่สุดในช่วงซัมเมอร์นี้ของ ทีมนกนางนวล ด้วยราคา 10 ล้านปอนด์ มิดฟิลด์วัย 25 ปี คือหนึ่งในเบื้องหลังความสำเร็จของ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ชุดที่คว้าแชมป์ลีกไปเมื่อปี 2016 หลังย้ายเข้ามาจาก วิเทสส์ ในฤดูกาลแรกและยังเป็นเจ้าของสถิติยิงประตูได้ถึงเลข 2 หลักจากตำแหน่งกองกลางในช่วง 2 ฤดูกาลหลังสุด

 

  1. สตีฟ มูนี่ (ฮัดเดอร์สฟิลด์) “เขามีทักษะในเชิงกายภาพอย่างแท้จริงและเหมาะเจาะลงตัวที่จะเล่นอยู่ใน พรีเมียร์ลีก” เดวิด ว้ากเนอร์ กุนซือของ เดอะ เทอร์เรียร์ส ได้กล่าวถึงศูนย์หน้าคนใหม่ของทีมที่ไปคว้ามาจาก มงต์เปลลิเย่ร์ ด้วยค่าตัวราว 11.5 ล้านปอนด์ หัวหอกวัย 22 ปี ฝากผลงานใน ลีกเอิง ซีซั่นที่แล้วไว้ด้วยตัวเลข 14 ประตูจากการลงเล่น 35 นัด และยังเปิดตัวใน อังกฤษได้สวยหรูจากการเหมาคนเดียว 2 ประตูในเกมที่บุกไปหักปีก คริสตัล พาเลซ ถึง เซลเฮิร์สท์ พาร์ค 0-3 ในนัดเปิดฤดูกาล

 

  1. เจค็อบ เมอร์ฟี่ (นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด) หนึ่งในผู้เล่นดาวเด่นของ ทีมสิงโตคำราม ที่โชว์ฟอร์มได้จัดจ้านใน ศึกยูโร U-21 ที่ โปแลนด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา จนทำให้ ราฟาเอล เบนิเตซ ตัดสินใจคว้าตัวมาอยู่กับทีมด้วยราคา 12 ล้านปอนด์ พร้อมโอกาสของตัวนักเตะเองที่จะได้สัมผัสบรรยากาศในลีกสูงสุดของประเทศเป็น ครั้งแรก ปีกจอมเลื้อยวัย 22 ปี ยิงไป 9 ประตูใน ลีก แชมเปียนชิพ ฤดูกาลที่แล้วรวมถึง 2 ประตูทั้งนัดเหย้าและเยือนในการเจอกับ สาลิกาดง

 

  1. ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด) ดาวยิงหน้าใหม่ของ ทีมขุนค้อน ที่ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับ พรีเมียร์ลีก เพราะนี่เป็นการหวนกลับคืนสู่ พรีเมียร์ลีก อีกครั้งของ ชิชาริโต้ นับตั้งแต่ที่แยกทางกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปในปี 2015 หัวหอกทีมชาติเม็กซิโก เคยมีสถิติที่ไว้ใจได้จากการยิงได้เกิน 10 ประตูต่อฤดูกาลใน ลีกแดนผู้ดี และนั่นก็คงเป็นสาเหตุสำคัญที่ สลาเวน บิลิช กล้าตั้งความหวังไว้กับสตาร์คนใหม่ของทีมที่เขายอมเบิกงบในคลังไปคว้าตัวมาจา ก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์

 

  1. ดาวี่ คลาสเซ่น (เอฟเวอร์ตัน) ถึงแม้ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน จะเสียเครื่องจักรถล่มประตูอย่าง โรเมลู ลูกากู ออกไปในช่วงหน้าร้อนนี้ แต่การยอมลงทุน 23.6 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัว มิดฟิลด์ตัวรุกสายเลือดดัตช์ เข้ามา ก็อาจช่วยให้ โรนัลด์ คูมัน รู้สึกเบาใจขึ้นบ้าง อดีตกัปตันทีม อาแจ็กซ์ ที่พึ่งพาทีมเข้าสู่รอบชิงบอลถ้วยยุโรปเป็นครั้งแรกได้ในรอบ 21 ปีกระหน่ำรวมกันไปถึง 20 ประตูในซีซั่นสุดท้ายที่บ้านเกิด ยิ่งถ้าหากเขาและ เวย์น รูนี่ย์ สามารถจูนกันติดได้เร็วเท่าไรก็คงยิ่งทำให้เหล่า เอฟเวอร์โตเนี่ยน ได้ยิ้มร่ากันเร็วขึ้นเท่านั้น

 

  1. เซอัด โคลาซินัช (อาร์เซน่อล) เพียงนัดแรกที่ เจ้ารถถัง ลงประเดิมสนามให้กับ ทีมปืนใหญ่ ในเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ก็ทำให้แฟนๆรู้สึกปลาบปลื้มไปกับผลงานแถมยังสามารถเบิกสกอร์แรกของตนเอง ได้อีกด้วย ซึ่งตรงกับที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ได้นิยามถึงฟอร์มการเล่นแบ็คซ้ายคนใหม่ที่ได้ตัวมาฟรีๆจาก ชาลเก้ 04 ในนัดนี้ไว้ว่า “เจิดจรัส” จากการที่ ดาวเตะชาวบอสเนีย แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทั้งสภาพร่างกายและจิตใจไม่ว่ากับบทบาทแผ งหลัง 3 คนหรือในตำแหน่งวิงแบ็ค

 

  1. โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล) หลังเคยสอบตกกับ เชลซี ในช่วงระหว่างปี 2014 ถึง 2015 ปีกจรวดชาวอียิปต์ หวนกลับมายัง พรีเมียร์ลีก อีกครั้งพร้อมประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้นจากการพลิกคืนฟอร์มอันยอดเยี่ยมได้ใน เซเรีย อา 2 ฤดูกาลหลังสุด ด้วยผลงาน 35 ประตูจาก 81 เกมในลีกกับ ฟิออเรนติน่า และ โรม่า ก็ทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจรีบคว้าตัวเข้ามาเสริมเขี้ยวเล็บในแดนหน้า และเชื่อว่า เดอะ ค็อป คงตั้งความหวังจะได้เห็นดาวเตะเจ้าของค่าตัว 34.3 ล้านปอนด์จับคู่กับ ซาดิโอ มาเน่ กลายเป็นคู่หูนรกแตกที่คอยหลอกหลอนกองหลังฝั่งตรงข้าม

 

  1. แบร์นาโด้ ซิลวา (แมนฯ ซิตี้) หลังฤดูกาลที่แล้วปิดตัวลงไม่ถึงสัปดาห์ เรือใบสีฟ้า ก็ประกาศคว้าตัว กองกลางจอมเทคนิคชาวโปรตุเกส เข้ามาเสริมทีมในราคา 43 ล้านปอนด์ หลังจากมีส่วนสำคัญที่ช่วยพา โมนาโก คว้าแชมป์ ลีกเอิง ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ซึ่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็มั่นใจว่า สตาร์วัย 22 ปี ที่ฝากผลงาน 11 ประตูกับ 12 แอสซิสต์ในทุกรายการซีซั่นที่แล้ว จะเข้ามาช่วยยกระดับประสิทธิภาพในเกมรุก หลังจากที่ต้องพึ่งพาการทำประตูของ เซร์คิโอ อเกวโร่ ซะเป็นส่วนใหญ่ในปีที่ผ่านมา

 

  1. อัลบาโร่ โมราต้า (เชลซี) จากการแยกทางกันแบบไม่ค่อยสวยกับ ดีเอโก้ คอสต้า ก็ทำให้ อันโตนิโอ คอนเต้ ต้องเร่งเฟ้นหาศูนย์หน้าตัวหลักเข้ามาแทนที่ และจากแค่ช่วงเวลา 16 นาทีที่ สตาร์เจ้าของค่าตัว 70 ล้านปอนด์ ถูกเปลี่ยนลงสนามมาในเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ก่อนจะยิงจุดโทษพลาดไป ก็ถือเป็นการตัดสินใจที่เร็วเกินไปว่าเขาจะล้มเหลวใน พรีเมียร์ลีก อีกทั้ง ดาวยิงทีมชาติสเปน ก็มีภาพรวมของช่วงเวลาที่ดีใน 3 ปีหลังสุดกับ ยูเวนตุส และ เรอัล มาดริด ซึ่งแน่นอนว่า คอนเต้ จะต้องพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อผลักดันให้เขากลายเป็นเครื่องจักรสังหารประตูค นใหม่ในรั้ว เดอะ บริดจ์